เที่ยวน่านกัน
ตอนที่ 1: ดอยผาผึ้ง บ้านมณีพฤกษ์

วันแรกเรามุ่งหน้าสู่ดอยผาผึ้ง บ้านมณีพฤกษ์ อ. ทุ่งช้าง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ลุ่มน้ำน่าน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดน่าน ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ชิลๆ แวะจิบกาแฟ กินขนม ชมตลาด ดูน้ำตกไปเรื่อยค่ะ อ้อ! ลืมแนะนำค่ะ ทริปนี้เรามีเพื่อนนักผจญภัยร่วมเดินทางด้วยอีกหนึ่งคน ซึ่งทั้งช่วยขับรถ ดูแลเรื่องเส้นทาง แนะนำสถานที่ จัดหาอาหาร กางเต๊นท์ ทุกสิ่งอย่างค่ะ^ ^ ช่วงเวลาที่เราเดินทางยังอยู่ในช่วงปลายฝนเดือนตุลาคมจึงยังมีฝนตกอยู่บ้าง สภาพถนนจากตัวเมืองน่านถึงอำเภอทุ่งช้างถนนดีมากๆ วิวข้างทางสวยเชียว!!! แต่พอถึงทางขึ้นเขามุ่งหน้าบ้านมณีพฤกษ์ ถนนไม่ดีเท่าที่ควรเป็นหลุมเป็นบ่อเยอะมาก เกือบจะแวะเล่นน้ำตามหลุมและส่งคลิปไปอวดในโลกโซเชียลแข่งกับคนอื่นบ้าง แต่ดีที่เขิรเลยไม่ได้ทำค่ะ!!! ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถกระบะ ก้อเลยพอจะสู้ไหวแต่ก้อเจ็บแทนรถในหลายๆ หลุมเหมือนกัน ^ ^

????ทางที่ไปมีหมอกปลิวตามแรงลมให้เห็นเรื่อยๆ ชุ่มชื้นดีค่ะ!
ระหว่างทางมีแปลงเกษตรกรรมของชาวเขาปลูกข้าวโพด ขิงและกะหล่ำปลีให้เห็นเป็นระยะๆ
ลืมบอกค่ะว่าทริปนี้ไปแบบไม่ได้จัดหาอะไรเตรียมไว้ คือทุกอย่างไปหาเอาข้างหน้า คิดและแก้ปัญหากันไปตลอดการเดินทาง เราตกลงใจพักค้างแรมที่นี่ 1 คืน
ด้วยความที่แวะขิลไปเรื่อย แบบน่าน เนิบ เนิบ ขนานแท้ เราถึงบ้านมณีพฤกษ์กันในช่วงบ่ายๆ รอเจ้าหน้าที่(คุณพินิจ)จัดหาอุปกรณ์เต๊นท์สำหรับพักค้างแรม (คุณพินิจติดภาระกิจไปประชาสัมพันธ์เมล็ดกาแฟบ้านมณีพฤกษ์ในตัวเมือง) เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราก้อเลยขับรถเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อหาอาหารสำหรับมื้อค่ำและมื้อเช้าพรุ่งนี้ แต่เนื่องจากไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว อาหารเลยไม่มีให้เลือกมากนัก ร้านค้าในหมู่บ้านขายสินค้าตามปกติ เราได้มาม่าคัพ หอยลายกระป๋อง หมูยอแท่งและไก่ทอดพันปี น้ำแข็ง เครื่องดื่มพร้อม!!!
กลับมาถึงลานกางเต๊นท์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสำนักงาน และมีห้องน้ำอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ซึ่งก้อได้รับความสะดวกสบายพอสมควร เพื่อนที่เป็นทุกสิ่งอย่างดูท้องฟ้าแล้วบอกว่าคืนนี้น่าจะมีฝน เราเลยเลือกที่จะกางเต๊นท์กันใต้หลังคาสิ่งปลูกสร้างข้างๆ ลานกางเต๊นท์
เจ้าหน้าที่ใจดี จัดหากระติกน้ำร้อนมาให้ ได้อิ่มท้องก้อเพราะกระติกน้ำร้อนนี่แหละ หมูยออร่อยเกินความคาดหมายไปมากทีเดียว พอเริ่มค่ำเราก้อตั้งโต๊ะสังสรร ดูดาว ดื่มกินกัน อ้อ... ที่นี่มีน้องหมาหลายตัวมาร่วมวงสังสรรทำให้ดูเหมือนมีสมาขิกหนาตาทีเดียว ส่วนเจ้าหน้าที่ก้อล้อมวงอยู่หน้าจอทีวี เขียร์มวยกัน พอให้มีเสียงครึ้นเครงลอยมาเป็นระยะๆ คืนนี้ดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า อากาศเริ่มเย็น จนเราตกลงร่วมกันว่าไม่อาบน้ำ คืนนี้หลับไปแบบสุขใจที่ได้มาเยือน ...
และตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์บอกเวลาตี 4 ถึงเวลาแอดเวนเจอร์เดินป่าไปดอยผาผึ้งเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่อากาศไม่เป็นใจ ฝนตกหนักเฟ่อร์ๆ เราเลยตกลงร่วมกันอีกครั้งว่า "นอนเถอะ" เพื่อความสบายใจ ...อากาศหนาวใช้ได้เลยค่ะ แต่ลืมดูอุณหภูมิอ่ะค่ะ !!! แหะ แหะ
ตื่นมาอีกครั้งประมาณ 6 โมงครึ่ง ฝนหยุดแล้ว เราสองคนพร้อมไปเดินเล่นจุดหมายปลายทางยังคงเป็น ดอยผาผึ้ง ... ป่ะ! ไปลุยกันเลยค่ะ

????ทางเดินป่า ดินลึกและเฉอะแฉะพอควร เดินไถลลื่นพอให้ได้ช่วยเหลือกันบ้าง สนุกดีค่ะ!
????ในป่ามีดอกไม้สีสวยๆ ให้ชื่นชมเพลิดเพลินดีค่ะ
เดินอยู่ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ฝนเริ่มตกอีกแล้วค่ะ คิดว่าจะนิดเดียวและแป๊บเดียว ที่ไหนได้ตกหนักและนานเฟ่อร์! ไม่ได้เดินตากฝนแบบนี้มานานมาก....หนาวและชุ่มชื้นเปียกปอนดีมากค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก
ก่อนที่ฝนจะตก มีหมอกปลิวๆ ปกคลุมระหว่างทางที่เดิน เดินไปคุยไปเล่นกันไป ชิลดีนะคะ
สรุปทริปดอยผาผึ้งจบแบบไม่ถึงดอยผาผึ้งจริงๆ แต่ประสบการณ์ระหว่างการเดินทางให้อะไรเราเยอะมากเลย ทั้งการใช้ชีวิตของชาวเขา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ที่ดูเรียบง่ายและดูเหมือนจะสุขสงบกว่าคนเมืองอย่างเราๆ ซะอีก ทุกความโอบอ้อมอารีและสิ่งที่เราพบเจอที่นี่จะเป็นความทรงจำดีๆ ที่สีจะไม่จางแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะการฉี่ในพื้นที่โคดธรรมชาติ ที่ไม่ใช่ในห้องน้ำ นึกถึงทีไรก้อยังแอบอมยิ้มได้ทุกครั้ง ก้อมันไม่ชินมั้ยอ่ะ (^q^)
แล้วพบกันใหม่ ตอนที่ 2: เสมอเราเสมอดาว นะคะ

ที่มา https://pantip.com/topic/35895156